ปัจจุบันนี้มีคนที่สนใจธุรกิจกาแฟเพิ่มมากขึ้น แต่การลงทุนทำธุรกิจร้านกาแฟแบบ Shop หรือรูปแบบที่ดี ต้องใช้เงินลงทุนสูง กว่า 7-8 แสนบาท หรืออาจเลยไปถึงหลักล้านบาท ทำให้หลายคนต้องหยุดคิด กลับไปตั้งหลักก่อน
บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรจ โปรดักท์ จำกัด จึงรับอาสาส่งอัศวินขี่ม้าขาว "กาแฟสด ชาวดอย" มาช่วย ด้วยคอนเซ็ปท์รูปแบบธุรกิจกาแฟสดของคนไทยสไตล์ใหม่ เน้นความคล่องตัว สะดวก ทันสมัย ใช้พื้นที่ในการจำหน่ายน้อย ลงทุนน้อย และความเสี่ยงต่ำ
จุดเด่นสำคัญของ กาแฟสด ชาวดอย ก็คือไม่เรียกเก็บค่ารอยัลตี้ฟี เบ็ดเสร็จแล้วลงทุนจริงๆ 60,000-70,000 บาท คือ ลงทุนแค่ในส่วนของค่าอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ แบบครบเซ็ททุกอย่าง พร้อมเปิดร้านจำหน่ายได้เลยที่ 65,000 บาท
สำหรับเงินค้ำประกันรถกาแฟจำนวน 60,000 บาท จะได้รับคืนเมื่อเลิกกิจการและคืนรถให้กับบริษัทแม่ แม้แต่เครื่องชงกาแฟหรืออุปกรณ์ต่างๆ ก็จะมีรายละเอียดของการพิจารณาว่าส่วนไหนที่สามารถขายกลับคืนได้
ย้อนรอยที่มา กาแฟสดชาวดอย
สำหรับที่มาของกาแฟสด ชาวดอยเดิมเป็นคอนเซ็ปท์หนึ่งของกาแฟ Ninety-Four Coffee ตั้งแต่ยุคเริ่มแรก ได้วางโครงการเอาไว้ว่าร้าน Ninety-Four Coffee จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ หนึ่งคือมีลักษณะเป็น Shop สองเป็น Corner อยู่ในศูนย์การค้าหรือ ออฟฟิศบิลดิ้ง และ สามคือ Cart ในรูปแบบรถกาแฟสด
แต่ผลออกมาปรากฏว่า ลักษณะรูปแบบของ Cart กับโครงสร้างราคานั้นมีความขัดแย้งกัน เพราะลูกค้ารับราคาไม่ได้ และลูกค้า Ninety-Four Coffee ตาม Shop จะให้ความเห็นว่าดูไม่เหมาะ ไม่เข้ากัน คือ ร้าน Ninety-Four Coffee กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มลูกค้าขับรถ ระดับ C+ ขึ้นไป ดังนั้นสถานที่ต้องดี รูปแบบของ Cart จึงไม่เกิด
สุดท้ายจึงต้องตัดสินใจเก็บโครงการไว้เป็นเวลากว่า 2 ปี แต่ผู้บริหารของบริษัทยังมีความต้องการมุ่งเน้นให้คนไทย ได้ดื่มกาแฟสดที่มีคุณภาพ ราคามีความยืดหยุ่น จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่คนเดินถนน จนกระทั่งขึ้นห้าง หรือจะไปอยู่ตาม Food Court ก็ได้ จึงทำให้เกิดการสานต่อจนเกิดโครงการกาแฟสด ชาวดอย ขึ้นมา โดยเริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบัน มีจำนวนสาขาทั้งหมด 10 สาขา โดยเป็นแฟรนไชส์ 5 สาขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น