เพื่อการมีสุขภาพปากและฟันที่ดี การเลือก ยาสีฟัน จึงเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้นก็ควรเลือกยาสีฟันให้เหมาะสมกับช่องปากของแต่ละคน โดยมีเทคนิคการเลือกง่าย ๆ ยาสีฟัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำความสะอาดสุขภาพช่องปากในชีวิตประจำวัน เพราะยาสีฟันจะช่วยขจัดคราบหินปูนและคราบแบคทีเรียสะสมบนฟัน ป้องกันปัญหาโรคเหงือกที่อาจเกิดขึ้นจากการมีหินปูนสะสม โดยยาสีฟันส่วนมากมีส่วนประกอบเป็นฟลูออไรด์ (Fluoride) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงและป้องกันฟันผุ การเลือกยาสีฟันให้ตรงตามความต้องการของสุขภาพปากและฟันของแต่ละบุคคลจึงถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย คอลเกต แอดวานส์ ไวท์เทนนิ่ง
ส่วนผสมหลักของยาสีฟัน
ยาสีฟันมีทั้งชนิดน้ำ ผง เจล และครีม แต่ในไทยจะคุ้นเคยกับ 2 ประเภทหลังมากกว่า โดยยาสีฟันสูตรต่าง ๆ ย่อมมีส่วนประกอบที่แตกต่างหลากหลายขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่แต่ละยี่ห้อต้องการนำเสนอเป็นพิเศษ เช่น ยาสีฟันช่วยทำให้ฟันขาว ยาสีฟันลดการอักเสบของเหงือก อย่างไรก็ตาม ยาสีฟันเกือบทุกชนิดมักมีส่วนผสมหลักดังต่อไปนี้
->สารขัดถูชนิดอ่อนโยน เช่น แมกนีเซียมคาร์บอเนต (Magnesium Carbonate) แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) เจลซิลิโคนชนิดแห้ง (Dehydrated Silica Gels) อะลูมิเนียมออกไซด์ (Hydrated Aluminum Oxides) และเกลือฟอสเฟต (Phosphate Salts) สารเหล่านี้ล้วนมีหน้าที่ขจัดแบคทีเรีย เศษอาหาร และคราบต่าง ๆ ออกจากฟัน
->สารรักษาความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรอล (Glycerol) หรือซอร์บิทอล (Sorbitol) เป็นส่วนผสมที่จะช่วยรักษาความชื้นของยาสีฟัน ทำให้เนื้อยาสีฟันไม่แห้งตัว
-สารเพิ่มความข้นหนืด มักได้จากสาหร่ายทะเล สารแขวนลอยแร่ธาตุ (Mineral Colloids) เส้นใยเซลลูโลสสังเคราะห์ หรือยางจากธรรมชาติ มีหน้าที่ช่วยให้ยาสีฟันจับตัวเป็นเนื้อเดียวกัน
-ฟลูออไรด์ เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เคลือบฟันแข็งแรงและลดการผุของฟัน
-สารแต่งกลิ่นรสชนิดที่ไม่ทำให้ฟันผุ เช่น สารให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างแซกคารีน (Saccharin) ที่นิยมใส่เพื่อช่วยให้ยาสีฟันมีรสชาติดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีรสชาติอื่น ๆ ให้เลือกหลากหลายตามความชอบ เช่น กลิ่นมินท์ มะนาว อบเชย เป็นต้น
-สารทำความสะอาด เช่น โซเดียมลอริลซาโครซิเนต (Sodium Lauryl Sarcosinate) หรือโซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งจะทำให้ยาสีฟันเป็นฟองขณะแปรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น