7. ไม่ควรใช้ชื่อสถานที่มาตั้งชื่อบริษัท
การตั้งชื่อบริษัทตามสถานที่ตั้งนั้น อาจเป็นข้อจำกัดในอนาคตเมื่อเจ้าของธุรกิจคิดจะขยายสาขาเพิ่มเติมไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทำให้การใช้ชื่อบริษัทตามที่ตั้งทำเลนั้นเป็นปัญหาในอนาคต เพราะลูกค้าอาจจะสับสนได้ว่า สถานที่ตั้งของบริษัทอยู่ที่จังหวัดใดกันแน่ ยกตัวอย่างเช่น
- บริษัท บางเขนฟู้ด จำกัด
- บริษัท ชุมพร คอร์ปอเรชั่น จํากัด
8. ไม่ควรใช้ชื่อเจ้าของธุรกิจมาตั้งชื่อบริษัท
อีกข้อแนะนำที่ไม่ควรนำมาใช้ในการตั้งชื่อบริษัท คือชื่อเจ้าของธุรกิจ เนื่องจากการนำชื่อบุคคลมาตั้งชื่อบริษัทนั้น อาจจะเกิดปัญหาในการจดจำของลูกค้า อีกทั้งในการจัดตั้งบริษัทจะต้องมีหุ้นส่วนร่วมด้วย ถ้านำชื่อคนใดคนหนึ่งมาตั้งชื่อบริษัท อาจเกิดความขัดแย้งได้ รวมไปถึงการใช้ชื่อบุคคล ยังเป็นชื่อที่ไม่สร้างความดึงดูดใจต่อลูกค้าอีกด้วย เช่น
- บริษัท สมหมาย อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
- บริษัท สุรีย์พร ชิกเก้น จำกัด
9. ตั้งชื่อบริษัทที่ง่ายต่อการทำโลโก้
โลโก้บริษัทที่ดูดีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากชื่อบริษัทที่ดี ซึ่งควรตั้งชื่อให้สะดุดตา มีความยาวพอดี สามารถดึงดูดให้ลูกค้ามาสนใจได้ เนื่องจากโลโก้นั้น ทำหน้าที่เป็นหน้าตาส่วนแรก เช่นเดียวกับชื่อบริษัท และควรมีการออกแบบที่เข้ากับชื่อบริษัทเช่นกัน ดังนั้น การตั้งชื่อบริษัท จึงควรคำนึงถึงการออกแบบโลโก้ว่าสามารถออกแบบได้ง่ายหรือไม่ โดยโลโก้นั้นมักจะอยู่ในส่วนสำคัญต่าง ๆ ของบริษัท ยกตัวอย่างเช่น
- ป้ายบริษัท
- ภายในและภายนอก อาคารของบริษัท
- เว็บไซต์ของบริษัท
- ตรายาง
- นามบัตร
- ฯลฯ
10. อย่าลืม ! ดูฤกษ์เปิดบริษัท
การทำธุรกิจ หรือเปิดบริษัทให้ราบรื่นไปได้ด้วยดีนั้น นอกจากชื่อ และโลโก้บริษัทที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญที่หลาย ๆ คนมักจะมองข้าม นั่นก็คือการดูฤกษ์เปิดบริษัท เปรียบเสมือนการปูทางให้เรื่องดี ๆ เข้ามาได้ง่ายขึ้น กิจการราบรื่น ไม่ติดขัด โดยฤกษ์เปิดบริษัท เป็นการดูฤกษ์มงคล ฤกษ์งามยามดี วันที่ดีวันที่เหมาะสม และเป็นวันที่เจ้าของกิจการสะดวก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น