วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2564

"เรียก "ไฮยาลูรอน” เหมือนกัน แต่มีความเหมือนที่แตกต่าง"

 "เรียก "ไฮยาลูรอน” เหมือนกัน แต่มีความเหมือนที่แตกต่าง"


ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) เป็นสารที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติ เป็นโครงสร้างพื้นฐานของผิวทั้งในชั้นหนังแท้และหนังกำพร้า ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วยน้ำตาลที่เรียงตัวกันเป็นสายยาว ทำให้เกิดคุณสมบัติพิเศษสามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 1,000 เท่า 


หน้าที่สำคัญของไฮยาลูรอนในผิวจะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและพยุงโครงสร้างผิวร่วมกันกับเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ มีความยืดหยุ่น และเต่งตึง


ไฮยาลูรอนในชั้นผิวถูกสร้างขึ้นโดยเซลล์ที่เรียกว่า ไฟโบรบลาส (Fibroblast) และจะสลายไปตามธรรมชาติด้วยเอนไซน์ที่ชื่อว่า ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) โดยไฟโบรบลาสมีหน้าที่ในการสร้างไฮยาลูรอนใหม่ขึ้นมาทดแทนในส่วนที่สลายไปตามปกติของแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ


แต่เมื่อคนเราอายุมากขึ้นจะมีการสร้างไฮยาลูรอนมาทดแทนน้อยลง แถมยังมีส่วนที่ถูกทำลายมากขึ้นจากสาเหตุต่างๆ เช่น แสงแดด มลภาวะ พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ฯลฯ จึงส่งผลให้ผิวที่เคยอิ่มน้ำกลายเป็นผิวที่แห้งเหี่ยว โรยรา เกิดริ้วรอย และหย่อนคล้อย


สายน้ำและกาลเวลาไม่เคยไหลย้อนกลับ


แต่ด้วยนวัตกรรมปัจจุบัน เราสามารถสังเคราะห์โมเลกุลไฮยารูลอนเลียนแบบธรรมชาติได้


ซึ่งนำมาใช้ประโยชน์ช่วยทดแทนไฮยาลูรอนที่ลดน้อยลง เพื่อย้อนวัยผิวให้คงความอ่อนเยาว์ และช่วยให้ริ้วรอยดูลดเลือนลงได้


การทาผลิตภัณฑ์ที่มีไฮยาลูรอนเป็นส่วนประกอบ เช่น ครีม ซีรั่ม

ไฮยาลูรอนในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบ่งได้ตามขนาดที่หลากหลาย โดยที่แต่ละขนาดจะทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นผิว และลดเลือนริ้วรอย


โมเลกุลขนาดใหญ่ (>600kDa) จะไม่สามารถแทรกซึมลงสู่ผิว แต่จะเคลือบผิวชั้นบนไว้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวชั้นบน และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นผิวไว้ภายใน และลดการสูญเสียน้ำในผิวไปกับสิ่งแวดล้อม

โมเลกุลขนาดกลาง (150-600kDA) สามารถแทรกซึมได้ถึงผิวชั้นหนังกำพร้า ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวชั้นหนังกำพร้า และยังกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนตามธรรมชาติในผิว เพื่อผิวสวยยาวนานต่อเนื่อง

โมเลกุลขนาดเล็ก (<150kDa) สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวชั้นหนังกำพร้าชั้นในสุด โดยทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปที่ผิวชั้นใน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นหนังแท้ ช่วยลดริ้วรอยได้ในระยะยาว

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Vectorize Hyaluronic Sphere ช่วยให้ไฮยาลูรอนโมเลกุลใหญ่ซึมสู่ผิวได้ลึกขึ้นจนถึงผิวชั้นล่าง ด้วยโมเลกุลขนาดใหญ่มีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดีกว่า เมื่อเกิดการอุ้มน้ำก็ช่วยดันให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นได้ ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น


ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยไฮยาลูรอนที่มีขนาดหลากหลายเพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อผิวสวยแลดูอ่อนเยาว์


2. การฉีดเติมไฮยาลูรอนโดยแพทย์


ไฮยาลูรอนที่ใช้ฉีดจะอยู่ในรูปแบบของฟิลเลอร์ (Hyaluronic acid filler) ซึ่งลักษณะโมเลกุลไฮยาลูรอนนี้จะแตกต่างจากแบบทา จะต้องผ่านกระบวนการเชื่อมต่อกันให้เป็นร่างแห ทำให้ขนาดใหญ่ขึ้นคงตัวมากขึ้น แต่ยังสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ และอยู่ในผิวเราได้นานขึ้นตั้งแต่ 6-24 เดือน


ประโยชน์ของไฮยาลูรอน


ใช้ฉีดเติมที่ผิวชั้นหนังแท้ ช่วยเติมเต็มส่วนที่หายไป เพิ่มความชุ่มชื้น พยุงโครงสร้างผิวจากผิวด้านใน เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย

2. ใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้า แก้ไขปัญหาจุดบกพร่องของโครงสร้างหน้า เช่น เติมขมับตอบ ร่องใต้ตา ร่องแก้ม เสริมคาง


บางคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องไฮยาลูรอนแบบรับประทานเป็นอาหารเสริมกันบ้าง แต่ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยเพิ่มปริมาณไฮยาลูรอนที่ผิวอย่างได้ผล



https://www.institut-esthederm.co.th/facecare/by-concern/intensive-care/large-pores.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นาฬิกาก็อป ข้อมือเลียนแบบที่มีให้เลือกมากที่สุด

  นาฬิกาก็อป ข้อมือเลียนแบบที่มีให้เลือกมากที่สุด        เราคือศูนย์ผู้จำหน่ายโดยตรงที่มีสินค้ามากมาย หลายแบบหลายยี่ห้อมากที่สุด ทุกยี้ห้อไม...