การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหารการกิน คนเป็นเบาหวานสามารถรับประทานอาหารได้เหมือนคนทั่วไป แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังการเลือกชนิดของอาหารและกำหนดปริมาณของอาหารให้เหมาะสม
5 พฤติกรรมที่ต้องปรับเปลี่ยนสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
1.ควบคุมน้ำตาล
ผู้ป่วยเบาหวานต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น ขนมหวาน ลูกอม ช็อกโกแลต เป็นต้น เลือกกินผลไม้แทนขนมหวาน แต่กินในปริมาณพอเหมาะ เพราะในผลไม้ก็มีน้ำตาล ระวังสารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียม เพราะอาจทำให้ร่างกายอยากน้ำตาลมากขึ้น
2.ควบคุมคาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรตให้พลังงาน แต่ก็ทำให้ระดับน้ำตาลขึ้นง่าย ต้องเลือกคาร์โบไฮเดรตที่ดีจากธรรมชาติและไม่แปรรูปมาก เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด ลูกเดือย ขนมปังโฮลวีท ขนมปังธัญพืช เป็นต้น หรือเลือกกินผักที่มีแป้ง เช่น ฟักทอง เผือก มัน เป็นต้น แต่ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม
3.ควบคุมไขมัน
เลือกกินอาหารที่มีไขมันดีและอาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ เช่น ปลาทะเล น้ำมันปลา งดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ เช่น เนยเทียม เนื้อสัตว์ติดหนังติดมัน เลือกวิธีปรุงอาหารที่เลี่ยงน้ำมัน เลี่ยงอาหารทอด เลือกใช้น้ำมันที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันรำข้าว ช่วยลดคอเลสเตอรอล คุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
4.ควบคุมโปรตีน
คนทั่วไปต้องการพลังงานจากโปรตีน ร้อยละ 10-35 (เนื้อสัตว์ 180 – 240 กรัม) ของพลังงานทั้งหมดที่ควรได้รับในแต่ละวัน แต่คนเป็นเบาหวานต้องการโปรตีนน้อยกว่าคนทั่วไป แค่วันละ 90 – 120 กรัมก็เพียงพอแล้ว
5.ควบคุมโซเดียม
คนเป็นโรคเบาหวานส่วนใหญ่มักมีโรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วย ดังนั้นต้องเลือกทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ อาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป และควรเลี่ยงอาหารกระป๋อง ผักดอง ไส้กรอก และงดรับประทานที่มีรสชาติเค็ม เลิกปรุงอาหารด้วยน้ำปลา หรือเติมเกลือลงในอาหาร
https://www.glucerna.co.th/diabetes/treatments/Diabetes-Treatment-Guidelines
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น