อย่ากลัวที่จะเริ่มกับการลงทุน หรืออย่ารอให้มีเงินหลักหมื่นถึงจะกล้าขยับขยายต่อเงิน เพราะวันนี้คุณมีเงินเพียงแค่หลักพัน ก็สามารถจะต่อยอดทำอะไรได้อีกมากมาย จำไว้ว่าเริ่มก่อนย่อมได้เปรียบ ให้เงินทำงาน เป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้เพื่ออนาคต
เริ่มจากนำรายได้มาแบ่งสัดส่วน
อย่าเพิ่งชักเงินออกมาแต่ละเดือนเพียงแค่ 1,000 บาท เราควรแบ่งสัดส่วนจากฐานเงินเดือนหรือรายได้เต็มจำนวนของเราเสียก่อน นั่นคือ
• ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่นค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า และค่าเดินทาง 50%
• เก็บออมเพื่อการลงทุน 20%
• ค่าใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนและความบันเทิง 10%
• ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพในยามฉุกเฉิน 10%
• เก็บไว้ใช้ยามเกษียณ 10%
ลงทุนกับกองทุนรวม
การลงทุนกับกองทุนรวม บริษัทจัดการกองทุนจะนำเงินของนักลงทุนรายย่อยไปลงทุนต่อตามความต้องการ เช่นลงทุนตราสารหนี้ หุ้นหรืออสังหาฯ โดยเราจะได้รับเงินปันผลตามข้อตกลงเช่น ปีละ 1-2 ครั้ง สามารถเลือกลงทุนได้ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ซึ่งระหว่างทางการลงทุนจะมีเงื่อนไขห้ามขาย 5- 55 ปีแล้วแต่กองทุน ระหว่างแต่ละเดือนคุณยังสามารถลงทุนเพิ่มมูลค่าได้เรื่อยๆ คล้ายๆกับการออมเงินแต่ได้เงินปันผลที่มากกว่า ซึ่งปัจจุบันเงินฝากออมทรัพย์ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 0.5% แต่กองทุนรวมให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1-1.5% การมองหาการลงทุนที่ความเสี่ยงน้อยมากจนแทบไม่เสียเงินอาจได้ผลตอบแทนน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก มีเงิน 1000 ลงทุนอะไรดี
เงินที่เก็บไว้ใช้ยามเกษียณควรลงทุนแบบไหน
โดยส่วนมาแล้วเงินที่ใช้ยามเกษียณควรนำไปลงทุนในรูปแบบของประกันต่างๆ มากกว่า เช่นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ซึ่งจะมีกำหนดให้สำหรับวัยเกษียณโดยเฉพาะ เงินเหล่านั้นเราไม่สามารถกดเงินมาใช้ได้เลยจนกว่าจะถึงเวลาตามที่กำหนด จะทำให้เรามีการเก็บเงินที่มีระบบและสร้างวินัยในการเก็บออมของเราได้ เงินสำหรับเกษียณก็ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุถึง 40 ปีขึ้นไป เพราะเราสามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อความสบายในอนาคตครับ
ขอบคุณบทความจาก ananda
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น