สิ่งที่ต้องประเมินก่อนซ่อมแซมบ้านในทุกครั้ง
1. เช็กลิสต์จุดที่ต้องมีการซ่อมแซม
ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมเพียงเล็กน้อยหรือซ่อมครั้งใหญ่ การเช็กลิสต์จุดต่าง ๆ ออกมาก่อนว่ามีตรงไหนต้องซ่อมบ้างจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมง่ายขึ้นกว่าเดิม เช่น หลังคารั่วในห้องน้ำ, น้ำเริ่มซึมบนหลังคาห้องนอน, ผนังส่วนต่อเติมครัวมีรอยร้าว, กระจกหน้าต่างห้องร้าว เป็นต้น แต่ถ้าใครไม่ชัวร์ว่ามีตรงไหนอีกอาจเรียกผู้ตรวจสอบบ้านมาช่วยลิสต์ทีละจุดเลยก็ได้ ประตูบานเลื่อน
2. ไล่เรียงระดับความสำคัญ
เมื่อรู้จุดที่ต้องซ่อมแซมบ้านในครั้งนี้แล้ว หากคุณไม่ได้มีเงินมากพอที่จะซ่อมทีเดียวทั้งหมดก็ต้องไล่เรียงลำดับความสำคัญของปัญหาว่าควรเริ่มซ่อมจากอะไรก่อน สิ่งไหนที่ยังพอทนไหวก็ปล่อยให้เป็นครั้งหน้า เช่น ระหว่างหลังคารั่วกับหลังคาน้ำซึม ควรเลือกจุดที่หลังคารั่วก่อน แต่ถ้าจุดดังกล่าวไม่ได้มีคนใช้งานบ่อยนัก ตรงข้ามกับบริเวณที่น้ำเริ่มซึมบนหลังคาคือห้องนอนตนเอง อันนี้ก็ต้องเลือกอย่างหลัง เป็นต้น
3. ประเมินงบประมาณในมือ
ข้อนี้จะสอดคล้องกับข้อ 2 เพราะการรู้งบในมือจะทำให้คุณประเมินคร่าว ๆ ได้ว่าควรเลือกซ่อมส่วนไหนก่อนหลัง หากคิดว่าทุกส่วนสำคัญเท่ากันทั้งหมด มากไปกว่านั้นการรู้งบเพื่อเตรียมซ่อมแซมแล้ววางแผนอย่างดีจะช่วยลดความเสี่ยงปัญหางบบานปลายในอนาคตได้อีกด้วย
4. ประเมินการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
ในการซ่อมแซมบ้านแต่ละครั้งไม่ใช่งบถูก ๆ และคงไม่มีใครอยากทำใหม่บ่อยอยู่แล้ว การเลือกวัสดุจึงควรเน้นของดีมีคุณภาพตามกำลังเงินที่ไหวไปเลย เพราะถ้าเทียบแล้วหากคุณใช้ของถูกแต่ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อย เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทุกรอบยังไงก็แพงกว่าการทำรอบเดียวจบแบบไม่ต้องสงสัย
5. ประเมินช่างที่ตอบโจทย์มากที่สุด
ข้อสุดท้ายอย่าลืมประเมินช่างรับเหมาหรือบริษัทรับจ้างซ่อมบ้านว่ามีตัวเลือกไหนน่าสนใจ ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา ราคา ความคุ้มค่า ก่อนตัดสินใจ อย่ามองแค่เรื่องของถูกเพียงอย่างเดียวเพราะมันอาจได้ผลลัพธ์ไม่ตรงใจง่ายมาก
เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็หวังว่าการซ่อมแซมบ้านของทุกคนจะช่วยให้คุณได้บ้านหลังใหม่ที่น่าอยู่ขึ้นภายใต้งบเหมาะสม ซึ่งในส่วนของการหาอุปกรณ์อย่างประตู-หน้าต่าง, วัสดุปูพื้น Hoffen พร้อมเป็นทางเลือกชั้นยอดให้กับลูกค้าทุกราย มาตรฐานเยอรมนี มีตัวเลือกหลากหลาย ใช้งานแล้วต้องประทับใจ ไม่ต้องเสียเงินซ่อมใหม่บ่อย ๆ แน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น