โครงการ “ห้องปฏิบัติการกฎหมายสิทธิมนุษยชน” แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 3 แล็บ โดยมีจุดเน้นแตกต่างกัน ดังนี้
แล็บ 1 : การติดตามการทำงานของหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน เป็นส่วนที่เปิดให้นิสิตชั้นปี 2- 4 ได้เข้าฝึกงานกับภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
แล็บ 2 : การเรียนรู้จากการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน นิสิตชั้นปี 2-4 จะได้เข้าอบรมเนื้อหาทางด้านสิทธิมนุษยชน และทำงานร่วมกับภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
“แล็บที่ 1 และ 2 จะเน้นให้นิสิตเรียนรู้จากการทำงานร่วมกับองค์กรสิทธิมนุษยชน อาทิ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน โดยนิสิตจะได้ร่วมสังเกตการณ์ทางคดี ทำฐานข้อมูล (database) ซึ่งข้อมูลบางส่วนจะนำไปพัฒนาเป็นเนื้อหาเพื่อเผยแพร่ เช่น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) จะมีบันทึกไว้ว่าสืบพยานอย่างไรบ้าง นิสิตก็จะเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงมีโอกาสได้ทำบทความวิเคราะห์ด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมี iLAW ที่นิสิตจะได้ไปร่วมสัมผัสกับเหตุการณ์การชุมนุมจริงแล้วเขียนเป็นบทความเผยแพร่” อาจารย์ ดร.พัชร์ อธิบาย fah talai jone
แล็บ 3 : เป็นห้องปฏิบัติการเรียนรู้เฉพาะเรื่อง รับสมัครเฉพาะนิสิตชั้นปีที่ 3-4 ซึ่งในครั้งล่าสุด นิสิตได้เข้ารับการอบรมในประเด็น “Anti-SLAPP Law” (SLAPP ย่อมากจาก Strategic Lawsuit Against Public Participation) หรือการใช้กฎหมายปิดปาก และได้สัมภาษณ์เหยื่อที่ได้รับผลกระทบจาก SLAPP Law
นิสิตในโครงการทั้ง 3 แล็บ จะได้เรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลปกป้องสิทธิมนุษยชน อาทิ การติดตามทนายไปร้องเรียน ยื่นหนังสือ ร่วมสอบข้อเท็จจริง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ การสังเกตการณ์การชุมนุม กระบวนการพิจารณาคดี การเลือกตั้ง รวมถึงการศึกษาร่างกฎหมายใหม่ เป็นต้น
“นอกจากการสร้างฐานข้อมูลและคอนเทนต์ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว นิสิตในโครงการจะมีโอกาสร่วมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย อาทิ เป็นกลุ่มทนายความที่พาลูกความไปฟ้องคดี เข้าร่วมประท้วงเรียกร้องสิทธิทางด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับชาวบ้าน ชุมนุมและฟ้องรัฐบาลเพื่อเรียกร้องประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษ PM2.5”
“ที่สำคัญ เราหวังว่าการทำงานร่วมกับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ จะช่วยให้นิสิตได้เปิดมุมมองและทัศนคติใหม่ ๆ รวมถึงเกิดการตั้งคำถามกับมาตรากฎหมายบางประการที่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน” อาจารย์ ดร.พัชร์ กล่าวเน้นจุดมุ่งหวังสำคัญของโครงการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น