ขวดพลาสติกที่เห็นขายอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง อยู่ใน 10 อันดับแรกของการทิ้งขยะที่มากที่สุด เรามักจะพบเห็นขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ได้ตามท้องถนนข้างทาง ไม่เว้นแม้แต่ริมชายหาด ขยะพวกนี้เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แถมขวดพลาสติกบางประเภทยังมีสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราปะปนอยู่ด้วย ถ้าคุณเปลี่ยนนิสัยหันมาพกขวดน้ำแบบใช้ซ้ำได้ คุณจะไม่อยากใช้ขวดแบบใช้แล้วทิ้งอีกเลย นี่เป็นเพียงประโยชน์บางส่วนจากการใช้ ขวดน้ำสแตนเลส แบบใช้ซ้ำได้
ขวดน้ำสแตนเลส ดีต่อสิ่งแวดล้อม
ของแจกพรีเมี่ยม คุณรู้หรือไม่? ว่าทางยุโรปเป็นผู้บริโภคขวดพลาสติกรายใหญ่ที่สุดในโลก ในยุโรป โดยเฉลี่ยคนส่วนใหญ่ซื้อน้ำ 73 ขวดต่อปี ขวดจำนวน 73 ขวดบางส่วนจะถูกนำไปรีไซเคิล แต่จำนวนมากจะถูกนำไปทิ้งในกองขยะแหล่งฝังกลบ แม่น้ำ ชายหาด และสุดท้ายก็กองเป็นขยะในทะเล นั่นทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมมากมาย และสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อองค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อม เช่น The Ocean Cleanup ให้ยกเลิกผลกระทบจากมลพิษพลาสติก
เมื่อคุณซื้อขวดน้ำแบบใช้ซ้ำได้หนึ่งขวดที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง และใช้งานได้ยาวนาน คุณจะลืมขวดแบบใช้แล้วทิ้งทั้งหมดที่คุณจะซื้อ ผลที่ได้คือคุณช่วยลดขยะพลาสติก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากต้องผลิต และกำจัดขวดพลาสติกน้อยลง
ขวดสแตนเลส ดีต่อสุขภาพ
เป็นที่ทราบกันดีว่าขวดพลาสติกบางประเภทมีสารพิษปะปนอยู่ เช่น บิสฟีนอลเอ (BPA) และไมโครพลาสติกในน้ำดื่มของคุณ จากการวิจัยพิสูจน์แล้วว่าสารพิษเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อคุณดื่มน้ำจากขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง คุณจะบริโภคสารพิษ และไมโครพลาสติกเหล่านี้ไปพร้อมกับเครื่องดื่มของคุณ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการดื่มน้ำขณะเดินทาง คือการใช้ ขวดสแตนเลส แบบใช้ซ้ำได้เกรดอาหาร
ประหยัดเงินในกระเป๋า
ในประเทศไทย ขวดน้ำพลาสติก ขนาด 500 มล. มีราคาประมาณ 12-15 บาท หากคุณซื้อเพียงวันละขวด คุณจะต้องจ่าย 5,475 บาทต่อปี เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะดื่มมากกว่า 500 มล. ต่อวัน เงินที่คุณใช้ซื้อน้ำดื่มไปส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการผลิตขวดมากกว่า การกรองน้ำดื่มบรรจุขวด
ทางเลือกที่ดีที่สุด เพียงคุณหาซื้อ ขวดสแตนเลส หรือ แก้วเก็บความเย็น ที่ใช้ซ้ำได้ แล้วเติมจากก๊อกน้ำในบ้าน หรือ ตู้หยอดเหรียญ เครื่องกรองน้ำในสำนักงาน และน้ำพุสำหรับดื่มตามสวนสาธารณะ คุณสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณไปได้อีกมากเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น