วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2566

วิธีเลือกสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ

 


1. ประหยัดค่าใช้จ่าย : ชื่อก็บอกแบบตรงตัวว่าห้องน้ำ ฉะนั้นลักษณะการใช้งานในห้องนี้จึงใช้น้ำเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำ, อ่างน้ำ, ฝักบัว หรือโดยเฉพาะโถสุขภัณฑ์ อย่างที่รู้กันดีว่ากดชักโครกหนึ่งครั้งใช้น้ำไม่ใช่น้อยๆ

ข้อมูลจากการประปานครหลวง (กปน.) ระบุว่า กดชักโครก 1 ครั้ง ใช้น้ำมากถึง 8-12 ลิตร หรือน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร มากถึง 8 ขวด! คิดง่ายๆ ว่าราคาน้ำขวด 1.5 ลิตร ที่ขายกันใน 7-11 ราคาถูกสุดอยู่ที่ 12 บาท การกดชักโครก 1 ครั้ง คุณต้องเสียเงินทันที 96 บาท

แม้เงินที่คุณจ่ายจริงตามค่าน้ำประปาจะไม่ถึงอย่างที่เราคำนวณมาก็ตาม แต่ลองนึกดูดีๆ ว่า วันหนึ่งคุณเข้าห้องน้ำกี่ครั้ง? บ้านคุณมีกี่คน? แล้วการทำกิจกรรมต่างๆ ในห้องน้ำของคุณมีกี่อย่าง? ไหนจะอาบน้ำ, ล้างหน้าและแปรงฟัน ฯลฯ

หากคุณไม่เลือกซื้อสุขภัณฑ์แบบประหยัดน้ำ ก็น่าจะไม่ค่อยดีต่อกระเป๋าสตางค์ของคุณในยุคนี้เท่าไหร่ ถ้าพูดให้ดูใหญ่กว่านี้ก็คือ นอกจากคุณจะประหยัดเงินแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำให้กับโลกอีกด้วย


Tips: วิธีเลือกสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ

  • Kohler สุขภัณฑ์ สังเกตสัญลักษณ์ฉลากประหยัดน้ำของการประปานครหลวง (กปน.) ซึ่งในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา กปน. ได้ขอความร่วมมือให้มีการติดฉลากนี้ เพราะได้ผ่านการตรวจสอบและการรับรองมาตรฐานจากการประปาฯ โดยมีตั้งแต่เบอร์5 เบอร์4 และเบอร์3 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสุขภัณฑ์ใดๆ ที่มีฉลากนี้ จะใช้น้ำไม่เกิน 2 – 6 ลิตรต่อนาที
  • สังเกตสัญลักษณ์ฉลากเขียว คือฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ซึ่งมีองค์กรกลางเป็นผู้ให้การรับรอง โดยมีความหมายว่า สินค้านี้ได้รับการตรวจสอบแล้วว่า มีองค์ประกอบ กระบวนการผลิต การใช้และการทิ้งทำลาย ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ไม่ได้รับการรับรอง เช่น สุขภัณฑ์ หากมีฉลากเขียวติดอยู่ แสดงว่าสุขภัณฑ์นี้ประหยัดน้ำกว่าแบบอื่น เป็นต้น
  • การเลือกฝักบัวให้เลือกที่มีรูปล่อยน้ำที่เล็ก จะช่วยประหยัดน้ำในดีกว่าฝักบัวที่มีรูใหญ่ และตามมาตราฐานของฉลากประหยัดน้ำจากหลายหน่วยงานระบุว่า ฝักบัวที่ประหยัดน้ำจะต้องปล่อยน้ำออกมาไม่เกิน 9 ลิตรต่อ 1 นาที
  • การเลือกโถสุขภัณฑ์หรือที่เราเรียกกันว่าชักโครก นอกจากฉลากประหยัดน้ำที่ต้องสังเกตแล้ว อาจจะต้องดูรายละเอียดการจ่ายน้ำ โดยรุ่นประหยัดน้ำ ควรใช้น้ำในการชำระล้างครั้งละไม่เกิน 6 ลิตร นอกจากนั้นอาจจะต้องดูเรื่องระบบการชำระล้างประกอบด้วย เพราะชักโครกรุ่นใหม่บางระบบ เช่น Wash Down หรือรุ่น Dual Flush จะสามารถเลือกประมาณน้ำในการชำระล้างได้ 3 หรือ 6 ลิตร


2. เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้าน : เพราะห้องน้ำคือพื้นที่ที่คุณใช้ชำระล้างสิ่งสกปรกใน

ชีวิตประจำวัน ยิ่งบ้านไหนมีสมาชิกเยอะและใช้ห้องน้ำร่วมกันหลายคน ถ้าไม่ดูแลรักษาความสะอาดของห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะแล้ว ก็อาจจะเป็นอีกจุดที่คุณและคนในบ้านสัมผัสกับเชื้อโรคมากที่สุด จนอาจจะส่งผลให้คนในบ้านเจ็บป่วยง่ายได้ นั่นเอง

ฉะนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ที่สะอาดและปลอดภัย การเลือกสุขภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพอาจจะยังไม่พอ แต่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ระยะการวางท่อประปาและท่อน้ำทิ้งให้เหมาะสม เพราะนั่นหมายถึงการระบายของเสียและสิ่งสกปรกต่างๆ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ อันนั้นมาสู่การสะสมของเชื้อโรคต่างๆ
  • เลือกระบบชำระล้างที่มีประสิทธิภาพในการชำระล้างสูง ก็จะช่วยกำจัดคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนโถสุขภัณฑ์ให้สะอาดหมดจดมากขึ้นอีกด้วย และหากคุณกำลังคิดว่า ระบบชำระล้างที่มีประสิทธิภาพจะต้องใช้ประมาณน้ำที่เยอะ ก็อย่าได้กังวลไป เพราะในปัจจุบันมีชักโครกหลายรุ่นที่มีระบบชำระล้างที่มีประสิทธิภาพแต่ใช้น้ำน้อยนั้น มีให้คุณเลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ เช่นกัน
  • เลือกผิวสุขภัณฑ์ที่มีความมันวาว จะช่วยให้สิ่งสกปรกมาเกาะบนพื้นผิวของชักโครกหรืออ่างล้างหน้าได้ยากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าพื้นผิวที่มีความด้านอีกด้วย
  • การติดตั้งให้ถูกสุขลักษณะ เช่น ความสูงของชักโครกสำหรับห้องน้ำมาตรฐานของผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 17 นิ้ว ส่วนห้องน้ำเด็กจะอยู่ที่ 14 นิ้ว เพื่อความเหมาะสมต่อการนั่งที่ถูกสุขลักษณะในขับถ่าย
  • ควรเลือกชักโครกที่มีขนาดคอห่านที่ใหญ่ เพื่อป้องกันปัญหาท่อตันและมีช่องกันกลิ่นที่ลึก เพื่อช่วยป้องกันกลิ่นย้อนกลับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

What Material Is Used to Make Paper?

  What is Paper Made of? Have you ever wondered what paper is made of? You’ll be surprised to learn that certain sheets of paper have had mo...