คาวาซากิ ฟรอนทาเล กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เขาต้องผ่านอะไรมามากมายทีเดียว

คาวาซากิ ฟรอนทาเล แปลงเป็นชมรมที่ 10 ที่ครอบครองแชมป์เจลีก
ภายหลังพวกเขาเป็นผู้ชนะในปี 2017 แต่ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ พวกเขาก็จะต้องผ่านอะไรมามากมายก่ายกองทีเดียว คาวาซากิ ฟรอนทาเล ลงแข่งขันเกมท้ายที่สุดของ J1 ด้วยการเจอกับ โอมิยะ อาร์ดิจา ที่รังเหย้าของตนอย่าง โทโรโดกิ แอธเลตำหนิก สเตเดียม แล้วก็เกมก็เป็นของพวกเขาอย่างเร็ว ภายหลังจาก ฮิโรยูกิ อาเบะ ทำประตูขึ้นนำได้ตั้งแต่ 45 วินาทีแรก

ก่อนที่จะถัดมาจะเป็นโชว์ของ ยู วัวบายาชิ ซึ่งจัดแจงกดแฮตทริค และก็ตามด้วยลูกปิดกล่องตอนทดเจ็บของ ทัทสึยะ ฮาเซกาวา จบเกมด้วยความมีชัย 5-0 ในตอนที่ผลอีกคู่ ติดอยู่ชิมา อันท์เลอร์ส ทำเป็นเพียงแค่เสมอกับ จูบิโล อิวาตะ 0-0 ซึ่งนี่ก็แปลว่า คาวาซากิ ได้แซงหน้า ค้างชิมา เปลี่ยนเป็นแชมป์ J1 คราวแรกในประวัติศาสตร์สมาคมโดยทันที แม้ว่าจะทั้งคู่กลุ่มจะมีแต้มเสมอกันที่ 72 คะแนน แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นฟรอนทาเลที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงจากการผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่า

ผู้จัดการทีมฟุตบอลอย่าง โทรุ โอนิกิ ผู้ซึ่งอยู่กับกลุ่มมาอย่างนานตั้งแต่ยุคเป็นนักฟุตบอล ร่วงคำพูดไว้ภายในตอนแถลงข่าวข้างหลังจบเกมว่า “สุดท้าย เวลาที่ประวัติศาสตร์ของ คาวาซากิ ฟรอนทาเล ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว” จากแผนกบอลของ ฟุจิตสึ ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 1955 คาวาซากิ ฟรอนทาเล แปลงเป็นสมาพันธ์อิสระในปี 1997 ซึ่งลงเล่นใน Japan Football League ภายหลังที่ได้ชั้นสองเมื่อปี 1998 เจลีกถึงอนุมัติให้พวกเขาร่วมในดิวิชันสองที่พึ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ภายหลังที่เมืองคาวาซากิไม่มีกลุ่มระดับอาชีพเหลือ เนื่องจากการจากไปของ เวอร์ดี พวกเขาก็ได้ฟรอนทาเลเป็นกลุ่มคนมาใหม่ รวมทั้งเป็นสมาคมอาชีพเดียวในเมืองในเวลานี้

แม้กระนั้นวิถีทางสู่เจวันของพวกเขาก็ไม่ได้ง่าย
ภายหลังที่ได้แชมป์เจทูได้ในปี 1999 ฟรอนทาเล ก็จะต้องตกชั้นลงไปอย่างเร็วเมื่อปี 2000 ด้วยสถิติที่ทรุดโทรมที่สุด อีก 4 ปีในเจทูต่อจากนั้น แฟนบอลของพวกเขาเริ่มมากขึ้น และก็สามารถพาทีมไปฝ่าถึงรอบรองชนะเลิศของเอ็มเพอเรอร์ คัพ ได้ ฟอร์มอันเยี่ยมที่สุดในปี 2004 นำมาซึ่งการทำให้ฟรอนทาเลได้กลับมาโลดแล่นในเจวันอีกที โดยการทำได้ 105 แต้ม กับอีก 104 ประตู จาก 44 เกม ตั้งแต่ปี 2005 ยอดกลุ่มจากเมืองคาวาซากิมักจบชั้นอยู่ครึ่งบนของตารางเสมอ sbobetsh

ด้วยการนำกลุ่มของยอดกองหน้าบราซิล จูนินโญ รวมทั้งเด็กแคว้นอย่าง เคงโงะ นาคามูระ สมาพันธ์มีการปรับปรุงขึ้นแบบปีต่อปี แต่ว่าโชคร้ายที่พวกเขามักประสบความล้มเหลวเป็นถ้วยรางวัลเท่าไรนัก ภายหลังที่พ่ายใน ยามาซากิ นาบิสโก ลีกคัพ เมื่อปี 2000 ฟรอนทาเลก็ได้ชั้นสองมาแล้วถึง 5 รายการตั้งแต่แมื่อปี 2006-2009 ด้อยกว่าแชมป์เจลีก 3 ครั้ง (2006, 2008 แล้วก็ 2009) รวมทั้งอีกสองครั้งในนาบิสเก๋คัพปี 2007 แล้วก็ 2009

แม้ว่าจะมิได้ถ้วยรางวัลในตอนนั้น แม้กระนั้นฟรอนทาเลก็นับว่าเป็นสมาพันธ์ที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มีคู่รักบอลล้นหลาม รวมทั้งนับว่าเป็นกลุ่มชั้นหนึ่งอีกทั้งในประเทศญี่ปุ่นและก็ทวีปเอเชีย จากการได้ลงเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก หลายต่อบ่อยมาก เกมดาร์บี้ของพวกเขากับเอฟซี เมืองโตเกียว มีชื่อเสียงกันในชื่อ ทามางาวะ คลาสสิโก ซึ่งเป็นแม่นั้ำที่กั้นกึ่งกลางระหว่างเมืองคาวาซากิแล้วก็เมืองโตเกียว ซึ่งมีที่ไปที่มาตั้งแต่ยุคสมัย JFL รวมทั้งนับว่าเป็นเกมที่รุนแรงที่สุดเกมหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น จนถึงในปี 2017 สมาพันธ์มีการเปลี่ยนครั้งสำคัญ โน่นเป็นการตั้งให้ลูกหม้อผู้อยู่กับกลุ่มตั้งแต่สมาพันธ์เป็นนักฟุตบอลก่อนก้าวมาเป็นเลิศในสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนรวมช่วงเวลาก้าว 19 ปีอย่าง โทรุ โอนิกิ ขึ้นมารับบทบาทผู้จัดการทีมใหม่แบบเต็มกำลังทีแรก

ผลงานแนวทางการทำหน้าที่เฮดผู้ฝึกสอนสุดกำลังทีแรกในชีวิตของ โอนิกิ นับว่าทำเป็นดีทีเดียว แม้ว่าจะจะต้องผิดหวังในบอลถ้วย ทั้งยังการตกรอบ 8 กลุ่มในที่สุดทั้งยังในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และก็เอ็มเพอเรอร์ส คัพ รวมทั้งความชอกช้ำระกำใจสำหรับการแพ้ต่อเซเรโซ โอซาก้า 0-2 ในรอบชิงแชมป์ลูวานคัพ ข้างหลังความปราชัยต่อเซเรโซ ทำให้ถึงกับมีนักเตะคนหนึ่งในกลุ่มออกมาตัดพ้อต่อว่าด้วยความรู้สึกน้อยน้อยใจในชะตากรรมที่สมาคมยังไม่เคยได้แชมป์ระดับเมเจอร์ได้เลยแม้กระทั้งถ้วยเดียวว่า “พวกเรารู้สึกเสมือนพวกเราถูกแช่งชักหักกระดูก”