วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2565

หลักสูตรน่าสนใจที่ประเทศญี่ปุ่น ในสาขาวิชาเฉพาะทางเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ







หากผู้ถึงปัญหาของโลกในปัจจุบัน นอกจากปัญหาที่เราควบคุมได้อย่างอย่างวิกฤติโลกร้อนหรือปัญหาภูมิอากาศแล้ว ในสังคมมนุษย์เองก็กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ “ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ” อันมีสาเหตุมาจากการที่มีอัตราการเกิดต่ำ ขณะที่ประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากการสำรวจประชากรโลกในปี 2020 พบว่า ประเทศที่มีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดก็คือ “ประเทศญี่ปุ่น”

ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาสังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ในปัจจุบัน ปี 2020 ที่ทำการสำรวจนั้น ปรากฏว่าญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงอายุสูงถึง 36.17 ล้าน คิดเป็น 28.7% ของประชากรทั้งหมด และจะพุ่งสูงไปถึง 35.3% ในปี 2040 (Ref. www.japantimes.co.jp)

สำหรับประเทศไทยเรานั้นเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2005 ปัจจุบันปี 2021 มีประชากรสูงอายุคิดเป็น 12.8% ของประชากรทั้งหมด และจะกลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” หรือมีผู้สูงวัยมากถึง 14% ของคนทั้งประเทศในปี 2565 ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ปัญหาสังคมนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และองค์กรต่าง ๆ ควรตั้งรับให้พร้อม โดยเฉพาะการวางระบบการศึกษาให้รองรับปัญหานี้ในอนาคต


หลักสูตรที่มีการเปิดวิชาเฉพาะทางเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

ด้วยสภาพปัญหาสังคมที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเช่นนี้ สถาบันการศึกษาต่าง ๆ โดยเฉพาะ “วิทยาลัยอาชีวศึกษา” เรียนต่อต่างประเทศ จึงเริ่มเปิดทำการเรียนการสอนหลักสูตรการพยาบาลเพื่อการบริการและการดูแลสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ (Nursing (caregiving) and wellness) ในสาขาการศึกษาและสวัสดิการทางสังคม (Education/ Social Welfare) ขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อผลิตบุคคลากรไปทำหน้าที่ช่วยเหลือและดูแลผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย สุขภาพ และจิตใจ รวมถึงผู้ที่สามารถให้คำแนะนำการดูแลผู้สูงอายุแก่คนอื่นได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งจะครอบคลุมความรู้ด้านการพยาบาล โภชนาการ สุขภาพ และจิตวิทยาของผู้สูงอายุ

ผู้ที่เรียนจบในสาขานี้ ส่วนมากแล้วจะไปเป็น “นักบริบาล ดูแลผู้สูงอายุตามบ้านพักคนชราต่าง ๆ” ซึ่งในหนึ่งวันจะต้องดูแลทั้งอาหารการกิน ดูแลสถานบริบาลให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ตรวจเช็คสุขภาพของผู้สูงอายุ ในกรณีที่ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นักบริบาลจะต้องคอยช่วยเหลือด้านการทานอาหาร การอาบน้ำ เป็นต้น นักบริบาลจะมีทั้งผู้ที่ประจำอยู่ในสถานที่นั้น และผู้ที่ต้องไปเยี่ยมผู้สูงอายุตามบ้าน

หากมีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังสามารถทำงานสายวิชาการในด้านการดูแลผู้สูงอายุได้อีกด้วย เช่น “ครูในโรงเรียนฝึกอบรมนักสวัสดิการผู้สูงอายุ” ได้อีกด้วย สำหรับอาชีพนี้ จะต้องมีประสบการณ์ในด้านการสวัสดิการสังคม เช่น พยาบาล แพทย์ นักสวัสดิการผู้สูงอายุ มาแล้ว 5 ปีขึ้นไป รวมไปถึง “ผู้บรรยายให้นักฝึกอบรมบุคลากรด้านงานบริบาลขั้นต้น” ซึ่งต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้ 5 ปีขึ้นไปเช่นเดียวกัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นาฬิกาก็อป ข้อมือเลียนแบบที่มีให้เลือกมากที่สุด

  นาฬิกาก็อป ข้อมือเลียนแบบที่มีให้เลือกมากที่สุด        เราคือศูนย์ผู้จำหน่ายโดยตรงที่มีสินค้ามากมาย หลายแบบหลายยี่ห้อมากที่สุด ทุกยี้ห้อไม...